Vistra L-Arginine Plus L-Ornithine Hydrochloride 1000mg (60 Tablets) x 2 ขวด
วิธีรับประทาน รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร
บรรจุ 60 เม็ด
อย. 13-1-00449-1-0223
อาร์จีนีนและประโยชน์เพื่อสุขภาพอื่นๆ
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : โดยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทมัส ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเม็ดเลือดขาวทีเซลล์ (T-lymphocytes) ให้มีปริมาณของเม็ดเลือดขาวทีเซลล์เพิ่มขึ้น
2. เสริมสร้างกล้ามเนื้อ : โดยการทำงานควบคู่กับกับแอล-ออร์นิทีน ในการผลิตโกร๊ทฮอร์โมน (ฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต) ในการสร้างมัดกล้ามเนื้อและการสังเคราะห์โปรตีน
3. ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น : อาร์จีนีนจะไปเร่งกระบวนการสร้างสารโพลีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อกระบวนการสร้างเซลล์
ข้อควรระวัง
- ห้ามรับประทานร่วมกับยาควบคุมความดันในกลุ่ม ACE inhibitors
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีความดันต่ำ
แอล-ออร์นิทีน
"แอล-ออร์นิทีน"คืออะไร?
แอล-ออร์ นิทีนคือ กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่สำคัญและมีหน้าที่หลายอย่างในร่างกายอาทิ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กำจัดสารพิษออกจากตับ เป็นแหล่งพลังงานสำรองของทุกเซลล์ในร่างกาย ส่งเสริมภูมิคุ้มกัน และอื่น ๆ
แหล่ง อาหารที่ดีของแอล-ออร์นิทีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ และหอยกาบน้ำจืด (Freshwater Clam)ดังนั้นผู้ที่เป็นมังสวิรัติหรือรับประทานเจก็มีโอกาสที่จะขาดแอล-ออร์ นิทีน
แอล-ออร์นิทีน สารอาหารเพื่อสุขภาพ
แอล-ออร์นิทีนและการเพาะกาย (Body Building)
จาก การศึกษาพบว่า หน้าที่หลักของแอล-ออร์นิทีน คือ เป็นสารตั้งต้นที่สำคัญในการผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)*ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ รวมทั้งซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอของร่างกาย นอกจากนี้
แอล-ออร์นิทีน ยังช่วยกระตุ้นการสร้างสารโพลีเอมีน (Polyamine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันการสลายตัวของกล้ามเนื้อ
ดัง นั้นในปัจจุบันวงการเพาะกายจึงนำคุณสมบัติดังกล่าวของแอล-ออร์นิทีน ไปใช้ในการเสริมสร้างมัดกล้ามเนื้อและความทนทานและแข็งแรงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้บางการศึกษายังพบว่าในเด็กที่มีปัญหาเรื่องของความสูงการได้รับ
แอล-ออร์นิทีนเสริม ก็สามารถช่วยพัฒนาเรื่องความสูงได้
*โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) คือ?
เป็น ฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า มีผลต่อการเจริญเติบโตรวมทั้งเมตาบอลืซึมต่าง ๆ ของร่างกาย การสร้างโกรทฮอร์โมนจะถูกควบคุมโดยปัจจัยหลายชนิดได้แก่ ภาวะเครียด การออกกำลังกาย การนอนหลับ และภาวะโภชนาการ บทบาทที่สำคัญที่สุดของโกรทฮอร์โมนคือ เรื่องของการเจริญเติบโตในร่างกาย ได้แก่
การกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์สร้างกระดูกอ่อน
การกระตุ้นให้มีการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนเซลล์ของกล้ามเนื้อหรือกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ
แอล-ออร์นิทีนและการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย
บริโภค อาหารประเภทโปรตีนเข้าไป ร่างกายจะมีกระบวนการดูดซึมและย่อยสลายโปรตีน ได้ส่วนที่เป็นของเสียออกมาคือ แอมโมเนีย (NH3) ซึ่งถ้ามีปริมาณแอมโมเนียมากเกินก็จะเป็นอันตรายต่อระบบประสาทส่วนกลาง ดังนั้นจึงต้องมีการกำจัดแอมโมเนียออกจากร่างกาย โดยการเปลี่ยนแอมโมเนียให้เป็นยูเรียและขับถ่ายออกทางปัสสาวะ ซึ่งกลไกการกำจัดแอมโมเนียนี้เราเรียกว่าวัฏจักรออร์นิทีน (Ornithine Cycle) ซึ่งสาเหตุที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า วัฏจักรออร์นิทีน ก็เนื่องมาจากวงจรนี้ต้องอาศัย ออร์นิทีน เป็นสารตั้งต้นในกระบวนการกำจัดของเสียออกจากร่างกายดังนั้นจึงไม่น่าแปลก เลยที่การได้รับ "แอล-ออร์นิทีน" จะช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย
รู้ หรือไม่ว่า? ในประเทศญี่ปุ่นมักจะรับประทานหอยกาบน้ำจืดในการลดอาการเมื่อยล้าและแก้ อาการมึนเมาหลังการดื่มสุราเนื่องจากในหอยกาบน้ำจืดจะมีปริมาณของแอล-ออร์นิ ทีน อยู่มากนั่นเอง
แอล-ออร์นิทีน และการสมานแผล(Wound Healing)
หลาย การศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องของการสมานแผล หรือแผลหายช้า หลังจากที่ได้รับแอล-ออร์นิทีน จำนวน 10-30 กรัม เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ พบว่าแผลมีอาการดีและหายเร็วขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากออร์นิทีน จัดเป็นสารตั้งต้นที่สำคัญของสารบางชนิดที่ช่วยในการคืนกลับสภาพเดิมของบาด แผล
แอล-ออร์นิทีน และภูมิคุ้มกัน
มี บางการศึกษาพบว่า ออร์นิทีน ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยการไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของต่อมไทมัส (Thymus gland) ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตที-เซลล์ (T-Cells) ซึ่งมีหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
แอล-ออร์นิทีน และการลดน้ำหนัก
แอล-ออร์ นิทีน สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ทั้งนี้เนื่องมาจากแอล-ออร์นิทีนจะไปกระตุ้นให้ร่างกายมีการสร้างฮอร์โมน เพื่อการเจริญเติบโตมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายมีปริมาณของมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นด้วยมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจึงมีผลต่อกระบวนการเผาผลาญที่เพิ่ม ขึ้นด้วย
วิธีการรับประทาน : เพื่อต้องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แนะนำวันละ 1,000-1,500 มิลลิกรัม
เพื่อต้องการดูแลสุขภาพร่างกายโดยทั่วไป แนะนำวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม