Vistra Salmon Fish Oil (100 capsules)
วิสทร้า น้ำมันปลาแซลมอน 1000 มิลลิกรัม (100 แคปซูล)
น้ำมันปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีกรดสำคัญที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและให้ประโยชน์อื่นๆ แก่ร่างกายคนเราคือ EPA (Eicosapentaenoic acid) และ DHA (docosahexaenoic acid)
Vistra Salmon Fish Oil วิสทร้า น้ำมันปลาแซลมอน 1000 มิลลิกรัม ผลิตภัณฑ์นี้ให้กรดไขมันจำเป็นกลุ่มโอเมก้า 3 ได้แก่ อีพีเอ และ ดีเอชเอ ใน 1 แคปซูลมีน้ำมันปลา 1000 มิลลิกรัม ประกอบด้วยกรดไขมันอิ่มตัวหลายตำแหน่ง |
|
ส่วนประกอบที่สำคัญ ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย | กรดไอโคชาเพนตาอิโนอิก(อีพีเอ) | 180 มก. | - | กรดไดซาอีโนอิก(ดีเอชเอ) | 120 มก. | - | วิตามิน อี | 9.09 มก. | - |
|
|
คำแนะนำ : รับประทานวันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร ควรรับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ |
| | | คำเตือน | 1. | เด็กและสตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน | | 2. | การรับประทานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานควารปรึกษาแพทย์ | | 3. | ห้ามใช้ในผู้ใหญ่ที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลา | | 4. | ควรระวังในผู้ที่เลือดแข็งตัวช้า หรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือแอสไพริน |
|
|
ขนาดบรรจุ : 100 capsules |
|
| ทะเบียน อย. เลขที่ 13-1-21556-1-0008 |
ราคา 365 บาท |
ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคที่คนเราหันมาสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ต้องดูแลเพื่อให้เกิดความสมดุลในชีวิต หลายๆคนจึงพยายามสรรหาสิ่งดีๆให้แก่ร่างกาย น้ำมันปลาจึงเป็นตัวเลือกในลำดับแรกๆ ที่เป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ แต่ก็มักจะเกิดคำถามและมีคนเข้าใจผิดเรื่องน้ำมันปลาอยู่บ่อยๆ วันนี้เลยนำเรื่องราวของน้ำมันปลามาฝากทุกๆคนกันค่ะ เพื่อเป็นเกร็ดความรู้ก่อนเริ่มตัดสินใจเลือกทานน้ำมันปลา
1. น้ำมันปลามีประโยชน์อย่างไร?
น้ำมันปลา มีกรดไขมัน โอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ให้ DHA ช่วยบำรุงสมอง ให้เกิดความคิดอ่านที่โลดแล่น ป้องกันความจำเสื่อม ลดความเครียดในสมอง และ ให้ EPA ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดการอักเสบ
2. ควรทานน้ำมันปลาตอนไหนอย่างไร?
ควรรับประทานพร้อมอาหาร หรือหลังอาหาร เพราะการดูดซึมจะดีกว่า
3. น้ำมันปลามีผลข้างเคียงหรือไม่?
กินน้ำมันปลาขนาดปกติไม่มีผลข้างเคียงใดๆ สามารถทานได้ทุกวัน วันนึงไม่ควรเกิน 3,000 มก.
4. “น้ำมันตับปลา” กับ “น้ำมันปลา” แตกต่างกันอย่างไร?
– น้ำมันตับปลา สกัดจากตับของปลาทะเลน้ำลึก เป็นอาหารเสริมที่ให้วิตามินเอและดี ช่วยในเรื่องการเจริญอาหาร บำรุงร่างกายทั่วไป นิยมใช้กับเด็ก
– น้ำมันปลา สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก เป็นแหล่งที่ให้กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็น คือ โอเมก้า 3 ที่ให้ DHA & EPA ช่วยบำรุงสมอง หัวใจ ลดไขมันในเลือด
5. น้ำมันปลา มีปฏิกิริยากับยาอื่นหรือไม่?
น้ำมันปลาเสริมฤทธิ์ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแก้ปวดแอสไพริน หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน
6. ทานน้ำมันปลาพร้อมกับวิตามินตัวอื่นได้หรือไม่?
สามารถทานได้อย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
7. คนท้องทานได้มั้ย?
คนท้องทานได้ เพราะน้ำมันปลามี DHA ส่งผลดีต่อสมองของลูกน้อย แต่แนะนำให้หยุดทานประมาณ 2 เดือนก่อนคลอดบุตร และควรปรึกษาและแจ้งข้อมูลกับแพทย์ทุกครั้งว่าทานอะไรอยู่บ้าง
8. น้ำมันปลา เหมาะกับใคร?
น้ำมันปลาให้ โอเมก้า 3 ซึ่งร่างกายเราไม่สามารถสร้างเองได้ ดังนั้นก็ควรทานในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆคะ
เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าน้ำมันปลามีประโยชน์กับร่างกายเรามากมาย ทานได้ทุกเพศทุกวัย เห็นความสำคัญขนาดนี้แล้วจะช้าอยู่ได้ไง รีบหาน้ำมันปลามาทานกันนะคะ