ไขความลับ ขจัดปัญหา...ทุกส่วนเกิน (สาว Size XL)
1. สัดส่วน Size XL : ปัญหาหนักใจของสาว ๆ ยุคใหม่
การรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการคือพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพ ดี แต่เนื่องจากในปัจจุบันด้วยภาวะที่เร่งรีบต้องแข่งขันกับเวลา ทำให้เราหันมานิยมรับประทานอาหารประเภท “Fast Food” ซึ่งจะประกอบด้วย ไขมัน แป้ง และน้ำตาล ตลอดจนมีเวลาในการออกกำลังกายน้อยลง ซึ่งเป็นที่มาของปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินโดยเฉพาะในคุณสาว ๆ จะพบว่ามีปัญหานี้กันมาก ไขมันส่วนเกินมักพบได้บริเวณเอว หน้าท้อง ต้นแขน และสะโพก ซึ่งนอกจากจะทำให้รูปร่างไม่ได้สัดส่วนที่สวยงามแล้ว หากมีการสะสมของไขมันมากเกินไปในบางส่วน ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างอื่นตามมาได้
2. หุ่นเพรียวสวย สัดส่วน Size S ด้วย CLA
จากการวิจัยพบว่าการลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยทำให้รูปร่างเพรียวสวยอย่างถาวรคือ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อมาแทนที่เซลล์ไขมัน หรือการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการรับประทานกรดไขมัน CLA อย่างเพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น ในนักกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะมีเซลล์กล้ามเนื้ออยู่เป็นจำนวนมากกว่าเซลล์ไขมันเมื่อเทียบกับคนปกติ ส่งผลให้ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้มีรูปร่างดี กระชับได้สัดส่วน และมีโอกาสอ้วนได้น้อย
3. CLA ทางเลือกใหม่ในการลดไขมันส่วนเกินและกระชับสัดส่วน สาร CLA (ซี แอล เอ) หรือ Conjugated Linoleic Acid คือกรดไขมันจำเป็น ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากการรับประทานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น กรดไขมัน CLA ถูกค้นพบเมื่อปี คศ. 1978 แหล่งที่ให้กรดไขมัน CLA ที่ดีที่สุดคือ น้ำมันเมล็ดทานตะวันที่ใช้ปรุงอาหารกันมานานแสนนาน และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากอเมริกาไปจนทั่วทวีปยุโรป ในเรื่องของประโยชน์ในการยับยั้งการสะสมไขมันใหม่ที่เข้าสู่ร่างกายและเร่ง การเผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ พร้อมทั้งเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้รูปร่างเพรียวกระชับได้สัดส่วน
CLA ช่วยกระชับสัดส่วน ด้วยกลไกธรรมชาติ ดังนี้
1. ลดปริมาณการเกิดไขมันสะสมใหม่ โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ LIPO-PROTEIN LIPASE ทำให้อาหารที่ทานเข้าไปไม่ถูกเปลี่ยนเป็นไขมันไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
2. เร่งสลายไขมันส่วนเกิน ที่สะสมอยู่ตามหน้าท้อง สะโพก ต้นแขน และต้นขา ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานหรือไขมันน้อยลง จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเมื่ออายุมากขึ้น ทานอาหารเพียงนิดหน่อยก็อ้วนแล้ว CLA จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานหรือไขมันให้กับร่างกาย โดยการกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ CARNITINE PALMITOYL TRANFERASE ส่งผลให้ไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายลดลง
3. เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ ลดปัญหาของการมีรูปร่างที่ไม่กระชับกล้ามเนื้อหย่อน หรือบางคนที่มีปัญหาว่ารูปร่างไม่อ้วน แต่ต้องการให้ส่งผลให้รูปร่างเฟริ์ม กล้ามเนื้อกระชับ ได้สัดส่วนสวยงาม ทำให้ไม่กลับมาอ้วนใหม่
ทำไม สารสกัดแครินอล ซีแอลเอ จากเนเธอร์แลนด์ ออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพกว่า
CLA แต่ละรูปแบบจะมีการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันไป CLA ที่สามารถออกฤทธิ์ในการลดดไขมันส่วนเกินและกระชับสัดส่วนมีเพียง 2 รูปแบบคือ C-9, t-11; C-12, t-10 ในการสกัดน้ำมันเมล็ดทานตะวันเพื่อให้ได้ CLA ในรูปแบบเฉพาะที่ออกฤทธิ์ลดไขมันส่วนเกินและกระชับสัดส่วน ต้องใช้เทคโนโลยีพิเศษที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะในการสกัดเท่านั้น แครินอลเป็นสารสกัดจากน้ำมันเมล็ดทานตะวันโดยใช้เทคโนโลยีพิเศษในการสกัด ทำให้ได้สาร CLA คุณภาพสูง ที่อยู่ในรูปแบบที่ออกฤทธ์ได้ดีคือ C-9, t-11; C-12, t-10 ในปริมาณที่สูงที่ให้ผลเต็มประสิทธิภาพมากกว่าในการลดไขมันส่วนเกินและ กระชับสัดส่วน ซึ่งสารสกัดอื่นที่ไม่ใช่แครินอล ถึงแม้มีความเข้มข้นของ CLA สูง แต่ถ้าไม่ใช่ CLA ในรูปแบบเฉพาะตัวที่ออกฤทธิ์ลดไขมันส่วนเกินและกระชับสัดส่วนหรือมีปริมาณ ต่ำก็อาจทำให้ไม่ได้ผลตามที่คาดหวังได้ นอกจากนี้แครินอลยังมีผลการวิจัยรับรองคุณภาพของสารสกัดด้วย ทำให้แครินอลเป็นสารสกัด CLA ที่ได้รับการยอมรับและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ขณะนี้ผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์ว่าเป็นสารสกัด Clarinol
TM เท่านั้น จึงจะสามารถระบุคำว่า Clarinol
TM บนกล่องได้ ทำให้มั่นใจในคุณภาพได้มากกว่า
ขนาดรับประทาน CLA เพื่อกระชับทุกสัดส่วน
จากการวิจัยพบว่าการรับประทานสารสกัด CLA จากธรรมชาติที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการลดไขมันส่วนเกินและกระชับ สัดส่วนนั้นควรรับประทาน CLA ให้ได้วันละ 3,400 มิลลิกรัม หรือประมาณ 3-6 แคปซูลต่อวัน พร้อมอาหารต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน และเน้นรับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้ ลดปริมาณการทานแป้งและน้ำตาลให้น้อยลง ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ได้ผลดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอีกหลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาผลาญอาหาร ของร่างกายให้ดีขึ้น และยังช่วยทำให้เราอิ่มนานขึ้น และไม่หิวบ่อยในระหว่างวัน ได้แก่
- แอปเปิ้ล วิเนก้า (Apple Vinegar) เป็นสารสกัดจากแอปเปิ้ล ที่อุดมด้วยกรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ เอ็นไซม์ธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่า 30 ชนิด ซึ่งเชื่อกันว่ามีส่วนทำให้ลดปริมาณอาหารที่รับประทานลงได้ โดยที่ไม่รู้สึกหิวบ่อยในระหว่างมื้ออาหาร เลซิติน(Lecithin) สารอาหารที่พบมากในไข่และถั่วเหลือง ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายไขมัน (Emulsifier) ช่วยให้ไขมันแตกตัวทำให้มีขนาดเล็กลง นอก
- จากนี้ยังช่วยให้การทำงานของตับในการเผาผลาญไขมันดีขึ้น ส่งผลให้สามารถที่จะย่อยและดูดซึมไขมัน และนำไปใช้เป็นพลังงานในร่างกายดีอย่างมีประสิทธิภาพ
- เกรฟฟรุต (Grape Fruit) สารสกัดจากผลเกรฟฟรุตที่ประกอบไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และเอ็นไซม์ ให้กากใยอาหารที่ช่วยดูดซับของเสีย และทำให้ระบบขับถ่ายสมดุล
- วิตามินบี 6 (Vitamin B6) เป็นสารอาหารที่พบมากในเนื้อปลา และเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ เป็นวิตามินที่มีส่วนสำคัญในการเผาผลาญโปรตีนและไขมันในร่างกาย
- เคล์ป (Kelp) สาหร่ายสีน้ำตาลที่อุดมไปด้วยไอโอดีน ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเผาผลาญแป้งและไขมันในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดสารพิษออกจากตับ และทำให้การทำงานของตับดีขึ้น
- โครเมี่ยม (Chromium) สารอาหารที่พบได้ในแหล่งอาหารธรรมชาติ เช่น จมูกข้าว เมล็ดฟาง ช่วยเพิ่มการเผาผลาญแป้งและน้ำตาล
- ชาเขียวสกัด (Green tea extract) ชาเขียวสกัด มีสารสำคัญในกลุ่มโพลีฟีนอลชื่อว่า EGCG (Epigallocatechin gallate) ที่มีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ นอกจากเป็นสารต้านอนุมูลอนุมูลิสระประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นอีกด้วย
จากการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน พบว่า การรับประทานชาเขียวสกัด วันละ 1,500 มก. ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน สามารถช่วยลดน้ำหนักตัวได้ถึง 4.6% และลดรอบเอวได้ถึง 4.48% โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิต ถือเป็นทางเลือกจากธรรมชาติเพื่อควบคุมน้ำหนัก และสลายไขมันที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูง พบว่า ชาเขียวช่วยควบคุมน้ำหนัก ได้โดย
- กระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและไขมันใน ร่างกาย (Fat burner): การรับประทานชาเขียว เปรียบเหมือนกับการออกกำลังกาย เพราะชาเขียวทำให้เมตาบอลิซึมของร่างกายเพิ่มขึ้น เพิ่มการเผาผลาญไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ได้รูปร่างสัดส่วนที่ดีขึ้น และน้ำหนักค่อยๆ ลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ
- ยับยั้งขบวนการย่อยไขมัน : ชาเขียวช่วยยับยั้งเอนไซม์ไลเปส และลดกระบวนการแตกตัวของไขมัน จึงส่งผลให้อาหารไขมันที่รับประทานเข้าไป ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยลง