ฟาร์มา นอร์ด ไบโอ-มารีน พลัส (60 แคปซูล)
- เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาเข้มข้น ที่มีปริมาณกรดไขมัน omega-3 สูงถึง 70%
- เป็น Omega-3 ในรูปกรดไขมันอิสระ (fatty free acid) ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย
- นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยวิตามินบี 12 และ กรดโฟลิก ที่ช่วยในกระบวนการเผาผลาญ homocysteine อันเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งของโรคหลอดเลือดหัวใจ
- เป็นน้ำมันปลาบริสุทธิ์
- ได้รับการรับรองความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์จาก PureMax™ (มี 3 ขั้นตอนในการทำให้ได้น้ำมันปลาสะอาดและบริสุทธิ์)
- ผลิตภายใต้มาตรฐาน Danish pharmaceutical control
1แคปซูล ประกอบด้วย | | | %RDA* |
---|
น้ำมันปลารูปแบบกรดไขมันอิสระ | 500 mg | | |
โอเมก้า 3 | 300 mg | | |
ประกอบด้วย:EPA (Eicosapentanoic Acid) | 190 mg | | |
DHA (docosahexaenoic acid) | 110 mg | | |
| | | |
Vitamine B9 (Folic acid) | 100 µg | | 150% |
Vitamin B12 (Cyanocobalamin) | 1 µg | | 40% |
* RDA: Recommended Daily Allowance
ขนาดรับประทาน รับประทานวันละ 3 แคปซูล หรือตามคำแนะนำแพทย์ ควรรับประทาพร้อมมื้ออาหาร หรือ หลังอาหาร ควรกลืนแคปซูลทั้งเม็ดหลังอาหาร แต่ไม่ควรบดหรือเคี้ยวเม็ดแคปซูล ไม่ควรรับประทานเกินปริมาณที่แนะนำต่อวัน ไม่ควรรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทดแทนอาหารหลัก การรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ สำคัญที่สุดในการรักษาสุขภาพ | | ส่วนประกอบ Fish Oil Fatty Acids (free form), gelatin, glycerol, silicon dioxide, purified water, ammoniated caramel, folic acid, cyanocobalamin, d alpha-tocopherol.
การเก็บรักษา เก็บในที่แห้ง ณ อุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นแสง ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก น้ำมันปลาดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ช่วยควบคุมระดับโคลเลสเตอรอลให้ปกติ อีกทั้งมีผลดีต่อระบบข้อต่อกระดูก เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรรับประทานควบคู่กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Bio-Multivitamin และ Bio-Selenium+Zinc |
ไบโอ-มารีน พลัส (Bio-Marine Plus) คือ อะไร?
Bio-Marine capsulesไบโอ-มารีน พลัส เป็นแคปซูลเจลาตินชนิดนิ่ม แต่ละเม็ดประกอบด้วย น้ำมันปลา 500 มก. ซึ่งมี อีพีเอ ถึง 190 มก. และ ดีเอชเอ 110 มก. และโอเมก้า-3 ประเภทอื่นๆ 25 มก. น้ำมันปลานี้อยู่ในรูปกรดไขมันอิสระที่ดูดซึมได้ง่ายและมีความเข้มข้น จึงมีปริมาณของโอเมก้า-3มากกว่าแม้ตัวแคปซูลจะมีขนาดเล็กก็ตาม นอกจากนี้น้ำมันปลาได้ถูกสกัดอย่างดีด้วยกรรมวิธีพิเศษจึงสะอาด และมีค่ามลพิษปนเปื้อนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้มาก กรรมวิธีบรรจุแคปซูล ไบโอ-มารีน พลัส ทำในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากออกซิเจน และมีเพอร์ออกไซด์ น้อยมาก จึงช่วยป้องกันตัวน้ำมันจากการออกซิเดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังบรรจุวิตามินบีสองชนิดเพิ่มลงใน ไบโอ-มารีนพลัส ที่สามารถลดระดับของโฮโมซีสเตอีน นั่นคือ กรดโฟลิค และวิตามินบี 12
กรดไขมันอิสระในผลิตภัณฑ์ ไบโอ-มารีน พลัส
โอเมก้า-3 ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นกรดไขมันในรูปแบบไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งจะต้องได้รับการย่อยเป็นกรดไขมัน "อิสระ" ก่อนที่ระบบทางเดินอาหารจะสามารถดูดซึมได้ กระบวนการนี้มีเอนไซม์ตัวย่อยที่มีชื่อว่า ไลเปส(lipase) โอเมก้า-3 ในผลิตภัณฑ์ ไบโอ-มารีน พลัส อยู่ในรูปกรดไขมันอิสระอยู่แล้วจึงพร้อมที่จะถูกดูดซึมได้โดยตรง ดังนั้นส่วนดีของกรดไขมันโอเมก้า-3ชนิดนี้คือการถูกดูดซึมโดยตรงทันทีแม้ในคนที่มีปัญหาการดูดซึมไขมันบกพร่อง
ด้วยเหตุที่น้ำมันชนิดนี้อยู่ในรูปกรดไขมันอิสระตามธรรมชาติ จึงขอแนะนำให้คุณกลืนแคปซูลทั้งหมด เพราะหากคุณเคี้ยวแคปซูล ลิ้นของคุณอาจรู้สึกร้อน นอกจากนี้กรดไขมันอิสระ และวิตามินบี เมื่อผสมกันอาจก่อให้เกิดมีกลิ่นบ้าง แม้ว่าตัวน้ำมันจะสะอาด และใหม่อยู่
ไบโอ-มารีน พลัส เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะแก่ผู้ที่ไม่สามารถรับประทานปลาทะเลได้ตามปริมาณเกณฑ์ที่แนะนำ และผู้ที่ต้องการเสริมน้ำมันปลาคุณภาพสูง สะอาด และดูดซึมได้ง่าย
คำว่า พลัส (Plus) หมายถึงอะไร?
นอกจากจะมี โอเมก้า-3 แล้ว ผลิตภัณฑ์ไบโอ-มารีน พลัส ยังมีกรดโฟลิค และวิตามินบี 12 อีกด้วย ซึ่งวิตามินทั้ง 2 ชนิดนี้จะช่วยการทำงานของ โอเมก้า-3 ในการควบคุมกระบวนการเผาผลาญของสารhomocysteineให้ปกติ อีกทั้งกรดโฟลิกยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน การทำงานทางด้านจิตใจ และการสร้างเม็ดเลือด มากไปกว่านั้น กรดโฟลิคยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อีกด้วย
Omega-3 fatty acid คืออะไร?
กรดไขมัน Omega-3 เป็นกลุ่มกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ที่จำเป็นต่อร่างกาย สามารถพบได้ในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาเฮอริ่ง ปลาแซลมอน และปลาแมคเคอเรล โดย Omega-3 ชนิดที่สำคัญที่สุด มี 2 ชนิด ได้แก่ eicosapentaenoic acid (EPA) และ docosahexaenoic acid (DHA) ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1970 นายแพทย์ 2 ท่าน คือ Bang และ Dyerberg ได้ค้นพบสาเหตุที่ว่า ทำไมชาวเอสกิโมที่อาศัยบนเกาะกรีนแลนด์ชี่งบริโภคปลาทะเลและสัตว์ทะเลเช่น แมวน้ำ เป็นอาหารหลักจึงมีสุขภาพดีกว่าชาวเดนนิช* ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่ชอบรับประทานปลาจึงควรมีการเสริมกรดไขมัน Omega-3 เข้าไปให้เพียงพอต่อร่างกาย เชื่อกันว่า คนเราควรมีการบริโภค Omega-3 และ Omega-6 (ซึ่งได้จากพืช) ให้สมดุลกันในอัตราส่วน Omega-3 : Omega 6 เท่ากับ 1:4
* Bang HO, et al. Acta Med Scand 1976;200:69-73.
Dyerberg J, et al. Lancet 1978 Jul 15;2(8081):117-9
บำรุงระบบหัวใจ สมองและสายตา
ทั้ง EPA และ DHA นั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การรับประทาน DHA 250 มิลลิกรัม ทุกๆ วันจะช่วยพัฒนาการของสมองและตาในทารก ส่วนในผู้ใหญ่จะช่วยบำรุงสมองและการมองเห็นให้ปกติ มากไปกว่านั้น การรับประทานทั้ง DHA และ EPA 250 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยบำรุงการทำงานของหัวใจให้ปกติอีกด้วย
ดังนั้นจึงแนะนำให้รับประทานผลิตภัณฑ์ Bio-Marine จำนวน 2 - 3 เม็ด ต่อวัน (200-250 มิลลิกรัม) เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด
กรดไขมันอิสระในผลิตภัณฑ์ Bio-Marine Plus
โดยปกติ Omega-3 จะถูกเปลี่ยนป็น กรดไขมันอิสระ (free fatty acid) ด้วยเอนไซม์ lipase ก่อนจะถูกดูดซึมที่ทางเดินอาหาร แต่ omega-3 ในผลิตภัณฑ์ Bio-Marine Plus จะอยู่ในรูปกรดไขมันอิสระอยู่แล้วจึงพร้อมที่จะถูกดูดซึมได้ง่ายโดยตรง ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้แม้ในคนที่มีปัญหาการดูดซึมไขมันบกพร่อง
ผลิตภัณฑ์ Bio-Marine Plus จึงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถรับประทานปลาทะเลได้ตามปริมาณเกณฑ์ที่แนะนำ และผู้ที่ต้องการเสริมน้ำมันปลาที่เข้มข้น คุณภาพสูง สะอาดและดูดซึมได้ง่าย
คำว่า Plus หมายถึงอะไร?
นอกจากจะมี omega-3 แล้ว ผลิตภัณฑ์ Bio-Marine Plus ยังประกอบไปด้วย กรดโฟลิก และวิตามินบี 12 อีกด้วย ซึ่งวิตามินทั้ง 2 ชนิดนี้จะช่วยการทำงานของ Omega-3 ในการควบคุมกระบวนการเผาผลาญของสาร homocysteine อีกทั้งกรดโฟลิกยังช่วยเสริมภูมิต้านทาน บำรุงสมอง ความจำ และ การสร้างเม็ดเลือดอีกด้วย มากไปกว่านั้น กรดโฟลิก ยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อีกด้วย
มีสัญลักษณ์ PureMax ™ ทำให้มั่นใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริสุทธิ์ คุณภาพสูง
น้ำมันปลาในผลิตภัณฑ์ Bio-Marine Plus ได้รับสัญลักษณ์ PureMax™ แสดงให้เห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก
PureMax™ เป็นเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่คอยตรวจสอบและกำจัดสารพิษเจือปนออกจากผลิตภัณฑ์ เช่น ยาฆ่าแมลง สารโลหะหนัก furans (สารพิษจากการเผาไหม้ในโรงงาน) เป็นต้น
สัญลักษณ์การรับรองจาก PureMax™ หมายถึง การรับรองถึงระดับความบริสุทธิ์และปลอดภัยของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ว่ามีสารพิษเจือปนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ยอมรับได้ในผลิตภัณฑ์จากปลาและน้ำมันปลา
PureMax™ เป็นการรับรองว่า:
- ปริมาณสูงสุดของ dioxin และ furans ต้องต่ำกว่า 50% ของเกณฑ์ที่กำหนดโดย EU และ CRN*
- ปริมาณสูงสุดของ PCB ต้องต่ำกว่าอย่างน้อย 90% ของเกณฑ์ที่กำหนดโดย CRN *
- ปริมาณสูงสุดของสารปรอท ต้องต่ำกว่าอย่างน้อย 90% ของเกณฑ์ที่กำหนดโดย CRN *
) CRN ย่อมาจาก Council for Responsible Nutrition เป็นสถาบันวิจัยสารอาหาร ประเทศสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลเพิ่มเติมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Bio-Marine Plus
มีการศึกษาตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการ* ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Bio- Marine Plus เป็นประจำทุกวัน ได้ประโยชน์ต่อร่างกายเช่นเดียวกับผู้ที่รับประทานปลา 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Bio-Marine Plus ประกอบไปด้วยน้ำมันปลาเข้มข้น 500 มิลลิกรัม ซึ่งมี Omega-3 สูงถึง 70% (EPA 35% และ 25% DHA)
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Bio-Marine Plus มีระดับ peroxide ต่ำมาก จึงไม่มีกลิ่นเหม็นหืน
**) J. Agren et al. 1996; Eur. Journal of Clinical Nutrition 50;765-71.
Pure concentrated fish oil with vitamin B
Concentrated fish oil
With free fatty acids providing 50% better absorption
Highly concentrated (65% Omega 3), easily absorbable fish oil
Combined with vitamins B12 and folic acid that supports our homocysteine metabolism
Highly refined (three-step refining process, where the oil is thoroughly cleaned)
Pure fish oil far below regulatory limits for pollution
The soft gelatin capsules are easy to swallow
Manufactured under Danish pharmaceutical control
Scientifically documented
What is Fish Oil?
Essential polyunsaturated fatty acids (PUFAs), vital to the normal functioning of the body, belong to several different chemical families. The fat in fish contains so called omega-3 PUFAs (also known as n-3 PUFAs), which differ from omega-6 PUFAs found in vegetable oils. Omega-3 and omega-6 PUFAs have different roles in body metabolism. Fish oils contain about 50 different fatty acids, and are the main source of the omega-3 essential PUFAs eicosapentaenoic acid (EPA) and docosahexanoic acid (DHA). EPA and DHA levels are very low (or absent) in domesticated land animals. The habitat in which the fish grow has a major influence on their fatty acid composition. The fish obtain omega-3 PUFAs by eating plankton, which in turn contain more omega-3 PUFAs the colder the sea water (cold water fish also have a higher fat content). Cold water fish such as salmon, tuna and mackerel have the highest levels of omega-3 PUFAs. Farmed fish fed commercial fish food contain lower levels of omega-3 PUFAs. Fish oils are best derived from fish found in the Northern Atlantic and South East Pacific oceans, where the risk of pollution is low. All fish oils should be carefully screened to ensure that there is no contamination by heavy metals, pesticides or industrial toxins such as dioxins.
Why fish oil from natural sources?
Comes in free triglyceride form, making it easier for the body to absorb.
70% Omega 3 (38% EPA, 22% DHA,) enriched with folic acid and vitamin B12
It is screened for toxins and PCBs and the fish used is caught in the cleaner waters of the South Pacific and Northern Atlantic. The crude fish oil is purified using PureMaxTM, the world’s leading purification technology for effective screening and cleansing of the oil.
Reduces blood triglyceride.
Vasodilatory effect on blood vessels (reducing blood pressure).
Reduces the ‘stickiness’ of blood, thereby inhibiting the formation of blood clots.
Required for the normal development and function of the brain.
Anti – inflammatory.
Because it is packed in “Blister Pack” which ensures the quality until expiry date.
THE TABLETS ARE PRODUCED UNDER PHARMACEUTICAL CONTROL.
THE RAW MATERIALS COMPLY WITH THE GOVERNMENT REGULATIONS IN THE EC AND SCANDINAVIA.
Content:
Fish oil 500 mg
(70% Omega – 3) (359 mg)
(EPA 38%) (190 mg)
(DHA 22%) (110 mg)
Folic acid 100 µg
Vitamin B12 1 µg
Package: 60 capsules
Direction: 1 capsule a day, unless otherwise advised, preferably during / after meals.
The capsules should be swallowed whole, not chewed or divided.
Do not exceed the recommended daily dosage.
Dietary supplements should not replace a varied diet.
A healthy lifestyle and a varied balanced diet is important for maintaining good health.
Combined advantage with Bio-Selenium+Zinc
Ingredients
Fish Oil Fatty Acids (free form), gelatin, glycerol, silicon dioxide, purified water, ammoniated caramel, pteroylmonoglutamic acid, cyanocobalamin.
Why free fatty acids?
Fish oil must first be converted into free fatty acids before it is absorbable. This conversion results in some loss of fatty acids. When you take fish oil as free fatty acids, you get 50% better absorption. This allows you to achieve the same effect with less capsules.
Good for heart and blood vessels, for a healthy cholesterol level, and flexible joints.
Storage
Dark, dry and at room temperature. Keep out of reach of young children.
วิตามินบี12 หรือเรียกว่า โคบาลามิน มีชื่อเรียกตามแร่ธาตุโคบอลท์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิตามินบี12 วิตามินบี12 สามารถละลายได้ในน้ำเช่นเดียวกับวิตามินบีอื่น ๆ ในกลุ่มวิตามินบี วิตามินบี12 ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดจากลำไส้เล็ก โดยที่วิตามินบี12 จะถูกห่อหุ้มไว้ในโปรตีนช่วยที่เรียกว่า"intrinsic factor"ผลิตในกระเพาะอาหาร หลังจากการดูดซึม วิตามินบี12 บางส่วนจะสะสมอยู่ในตับซึ่งในสภาวะปกติจะมีวิตามินบี12 ประมาณ 1-2 มก. หลังจากวิตามินบี12 ถูกใช้งานแล้วจะถูกขับออกสู่น้ำดีซึ่งครึ่งหนึ่งจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ นั่นหมายความว่าการขาดวิตามินบี12 ในอาหารอาจใช้เวลานานจึงจะปรากฏให้เห็น
วิตามินบี12 มีอยู่ด้วยกัน4รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ cyanocobalamin ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กันมากที่สุดในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ส่วนรูปแบบhydroxocobalamin ส่วนใหญ่จะถูกผลิตโดยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่และยังใช้ในรูปแบบการฉีดเข้าสู่ร่างกาย วิตามินบี12ในรูปแบบ รูปแบบ Adenosylcobalamin และ methylcobalamin สามารถเรียกได้ว่าเป็นวิตามินบี12 ในรูปแบบที่ออกฤทธิ์
ผลของวิตามินบี12
วิตามินบี12 สนับสนุนการเผาผลาญพลังงานตามปกติของร่างกายเนื่องจากมีส่วนร่วมในวัฏจักรกรดซิตริก (citric acid cycle) การผลิตพลังงานผ่านวัฏจักรนี้จะช่วยลดความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย วิตามินบี12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบจิตประสาทให้เป็นปกติโดยการมีส่วนร่วมในการผลิตสารสื่อประสาท serotonin ของร่างกาย วิตามินบี12 ในรูปแบบmethylcobalamin เป็นรูปแบบเฉพาะของวิตามินบี12 ที่ใช้ในการเผาผลาญของสาร homocysteineโดยตรง ซึ่งจะช่วยในการเปลี่ยนสาร homocysteine ไปเป็น methionine โดยที่ methionineบางส่วน จะใช้ในการผลิตสาร S-adenosylmethionine (SAM) ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างฮอร์โมนและสารสื่อประสาทหลายชนิดที่ส่งผลต่ออารมณ์ SAM ยังจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเซลล์ การซ่อมแซมและการแบ่งเซลล์อีกด้วย วิตามินบี12 สนับสนุนการทำงานของระบบประสาทให้เป็นปกติโดยการรักษาเยื่อหุ้มปลอกประสาทmyelinที่ล้อมรอบ axon ของเซลล์ประสาทเพื่อปกป้องเซลล์ประสาทและช่วยให้เกิดการส่งสัญญาณประสาทอย่างรวดเร็ว วิตามินบี12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้เป็นปกติโดยมีส่วนร่วมในการสร้างกรดนิวคลีอิกและโปรตีน วิตามินบี12 ช่วยให้การผลิตเม็ดเลือดแดงเป็นปกติ โดยทำงานผ่านทางเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขกระดูกที่ใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดง
ทำไมต้องเป็นวิตามินบี12 ที่ออกฤทธิ์ได้?
วิตามินบี12 ทั้งรูปแบบ cyanocobalamin และ hydroxocobalamin สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบที่นำไปใช้งานได้ในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงให้เป็นรูปแบบที่ใช้งานได้จะลดลงตามอายุและด้วยเหตุผลอื่น ๆ เนื่องจาก methylcobalamin มีกลุ่มเมธิลที่จำเป็นในการออกฤทธิ์ดังนั้นมันจึงมีประสิทธิภาพมากกว่ารูปแบบอื่นที่ยังไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ มันไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติที่แพทย์ให้วิตามินบี 12 โดยการฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ ด้วยวิธีนี้สามารถหลีกเลี่ยงการพึ่งพาปัจจัยภายในหรือการดูดซึมที่บกพร่องในลำไส้จากสาเหตุอื่น ๆ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการให้วิตามินบี12 ขนาดสูงในรูปแบบเม็ดชนิดอมสามรถถูกดูดซึมผ่านทางเยื่อบุในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการดูดซึมปกติที่ผ่านทางเดินอาหาร
แหล่งที่ดีของวิตามินบี12 ในอาหาร
วิตามินบี12 พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากสัตว์ ส่วนอาหารที่ได้จากผักที่มีวิตามินบี12 ส่วนใหญ่ได้จากการเติมเสริมเข้าไป
- ตับ
- เนื้อสัตว์
- ปลา / ไข่ / อาหารทะเล
- ไข่
- ผลิตภัณฑ์นม
- ชีส
พืชไม่มีวิตามินบี 12 ดังนั้นผู้ที่รับประทานมังสวิรัติควรให้ความสำคัญกับการได้รับวิตามินบี 12 ให้เพียงพอ ในผู้สูงอายุและผู้ที่มีระดับกรดในกระเพาะอาหารต่ำควรตระหนักถึงการได้รับวิตามินบี 12 ให้เพียงพอ
สำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรป (EFSA) ได้ทำการประเมินหลักฐานการศึกษาเกี่ยวกับวิตามินบี12 และได้ให้การรับรองถึงบาทของวิตามินบี12ดังต่อไปนี้:
- วิตามินบี 12 สนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ปกติ
- วิตามินบี 12 สนับสนุนการทำงานของระบบประสาทให้ปกติ
- วิตามินบี 12 มีบทบาทในกระบวนการแบ่งเซลล์
- วิตามินบี 12 ช่วยให้เกิดการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงตามปกติ
- วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยการในทำงานของระบบจิตใจให้เป็นปกติ
- วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการเผาผลาญ homocysteine ให้เป็นปกติ
- วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการเผาผลาญในกระบวนการสร้างพลังงาน
- วิตามินบี 12 ช่วยลดอาการอ่อนเพลียและความเหนื่อยล้า
ไบโอ-มารีน พลัส จาก Pharma Nord- น้ำมันปลาที่มีวิตามินบี12
ไบโอ-มารีน พลัส ประกอบด้วยกรดโฟลิคและวิตามินบี12 ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้เกิดการเผาผลาญของ homocysteine และการทำงานของระบบจิตประสาทให้เป็นปกติ วิตามินบี12 และกรดโฟลิกยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียและความเหนื่อยล้า